HISTORY OF AFRICA/ประวัติศาสตร์แอฟริกา

HISTORY OF AFRICA
CIVILIZATION IN AFRICA BEGAN TO appear more than 5,000 years ago with the rise of ancient Egypt. From about 2,500 years ago in sub-Saharan Africa, many other different kingdoms also developed. The Sahara acted as a barrier to keep this area separate from the rest of the world until the arrival of Arab traders in the 8th century. From the 15th century, the arrival of Europeans, the subsequent slave trade, and European imperialism had a profound effect on the continent. Since the 1950s, all African nations have reclaimed independence, although modern Africa continues to struggle with its post-colonial legacy and environmental problems.

ประวัติศาสตร์แอฟริกา
            อารยธรรมในทวีปแอฟริกาเริ่มปรากฏขึ้นมากกว่า 5,000 ปีที่ผ่านมาเมื่ออียิปต์โบราณปรากฏขึ้น ตั้งแต่ประมาณ 2,500 ปีที่ผ่านมา ในแอฟริกาใต้สะฮารา  มีราชอาณาจักรอื่น ๆ ต่าง ๆ มากมายที่ยังมีวิวัฒนาการอยู่ ทะเลทรายสะฮาทำหน้าที่เป็นแนวกั้นเขตแดนทำให้บริเวณนี้แยกออกจากส่วนอื่นของโลกจนกระทั่งพ่อค้าชาวอาหรับดินทางมาถึงในศตวรรษที่ 8 นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ชาวยุโรปเดินทางมาถึง ก็มีการค้าขายทาสตามมา และลัทธิจักรวรรดินิยมของยุโรปก็มีผลกระทบอย่างถ้วนทั่วบนทวีปนั้น ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1650 ชาติแอฟริกาทั้งหมดก็เรียกร้องอิสรภาพกลับคืน แม้ว่าแอฟริกาสมัยใหม่ยังคงดินรนต่อสู้กับมรดกที่เกิดขึ้นภายหลังลัทธิจักรวรรดินิยม และปัญหาสิ่งแวดล้อม

Early inhabitants
Humans have inhabited Africa for 4 million years. The Sahara was once a fertile land rich in plants and animals. But thousands of years ago, it dried up, and people moved south to the savannah to farm there.


ผู้คนที่อาศัยอยู่ในยุคแรก
            มนุษย์อาศัยอยู่ในทวีปแอฟริกามาเป็นเวลา 4 ล้านปีแล้ว ครั้งหนึ่ง ทะเลทรายสะฮาราเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์และมีพืชมีสัตว์มากมาย แต่เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา ก็เกิดความแห้งแล้งและผู้คนก็อพยพจากทางใต้ไปสู่ทุ่งหญ้าสะวันนาเพื่อทำมาหากิน ณ ที่นั่น
 
Painted bone/ภาพวาดบนกระดูก




Rock paintings
Rock and bone pictures often depicted everyday events, such as dancing, hunting animals, and fishing. Painters used animal fat colored with vegetable dyes.





ภาพเขียนบนหิน
            ปกติภาพวาดบนหินและกระดูกจะอธิบายเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น การเต้นรำ การล่าสัตว์ และการตกปลา จิตรกรจะใช้ไขมันสัตว์ทำสีผสมกับสีพืช







Nok culture
The earliest evidence of Iron Age settlement is called the Nok culture (500 BC-AD 200), which existed in what is now central Nigeria. Nok people lived in farming communities. They made iron weapons and tools for farming, and also produced fine terracotta sculptures.









อารยธรรมนก
            หลักฐานชิ้นแรกสุดของการตั้งหลักแหล่งในยุคหินเรียกว่า อารยธรรมนก  (500 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 200) ซึ่งยังหลงเหลือในประเทศไนจีเรียตอนกลางในปัจจุบัน ชาวนกอาศัยเป็นสังคมเกษตรกรรม ทำอาวุธและเครื่องมือจากเหล็กสำหรับทำเกษตรกรรม และยังผลิตประติมากรรมจากดินเผาสีอิฐสวยสดงดงามด้วย
 
Terracotta head, Nok culture
ศีรษะดินเผาสีแดง, วัฒนธรรมนก








Ancient empires
North Africa was in a good position to trade with western Asia. This caused rich empires to develop, including Meroe (modern Sudan, c.600 BC-AD 350), and Aksum (a trading state in northern Ethiopia, c.100 BC-AD 1000). Ghana (in West Africa, c.500-1300) developed for similar reasons.


ประวัติศาสตร์แอฟริกา







จักรวรรดิเก่าแก่สมัยโบราณ
            แอฟริการเหนืออยู่ในตำแหน่งที่ดีในการทำการค้าขายกับเอเชียตะวันตก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จักรวรรดิมีความร่ำรวยเจริญรุ่งเรือง ประกอบด้วย เมโร (ประเทศซูดานในปัจจุบัน ศตวรรษที่ 300 ก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 350) และอักซุม (รัฐพาณิชยกรรมในเอธิโอเปียตอนเหนือ ศตวรรษที่ 100 ก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 1000) รัฐกานา (ในแอฟริกาตะวันตก ศตวรรษที่ 500 – 1300) มีวิวัฒนาการมาด้วยเหตุผลเดียวกัน






Meroe
From the city of Meroe, the Kushites controlled trade in the Red Sea and the Nile River from 600 BC. They exported luxury goods, such as ostrich feathers and leopard skins, and built fine temples and flat-topped pyramids over the graves of their dead.

          


 Ruined temple, Meroe/ซากวิหาร, เมโร






เมโร
            ห่างจากเมืองของเมโร  พวกกูชควบคุมการค้าขายในทะเลแดงและแม่น้ำไนล์ ตั้งแต่ 600 ก่อนคริสตกาล โดยส่งออกสินค้าหรูหรา เช่น ขนนกกระจอกเทศและหนังเสือดาว และสร้างวิหารอันยอดเยี่ยมและพีระมิดมียอดแหลมเหนือหลุมฝังศพของผู้ตาย










Ghana
Ghana (located on the borders of modern Mali and Mauritania), one of Africa's most important empires, controlled the trans-Saharan trade in gold. Ghana's kings wore gold jewellery, and gold-embroidered clothes and turbans. Surviving gold artefacts show the incredible wealth of this kingdom.



ประวัติศาสตร์แอฟริกา
Heads of gold, often of royalty, played an important part in rituals. Head weighs 1.5 kg (3 lbs)
ศีรษะทองคำ ปกติเป็นของกษัตริย์ มีบทบาทสำคัญในการทำพิธีกรรม ศีรษะหนัก 1.5 กิโลกรัม (3 ปอนด์)










กานา
            กานา (ตั้งอยู่ชายแดนมาลีและมอริเตเนียปัจจุบัน) ซึ่งเป็นจักรวรรดิที่สำคัญที่สุดของแอฟริกาจักรวรรดิหนึ่ง ได้ควบคุมการค้าขายทองคำตามเส้นทางการค้าข้ามทะเลทรายสะฮารา กษัตริย์ของกานาสวมเครื่องเพชรพลอยทองคำ และภูษากับผ้าโพกพระเศียรที่เย็บปักถักร้อยด้วยทองคำ สิ่งประดิษฐ์ด้วยทองคำที่ยังคงเหลืออยู่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งอันมหัศจรรย์ของจักรวรรดินี้


ประวัติศาสตร์แอฟริกา




 
ประวัติศาสตร์แอฟริกา
.Stela. Aksum
เสาศิลาจารึก, อักซุม
Aksum
From c.300, Egyptian scholars introduced Christianity to Aksum, which then became famous as a holy city. During this period, Aksum took over the empire based at Meroe. Aksum's people built tall, stone stelae (monuments) to mark the tombs of dead kings.

อักซุม
            นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 300 นักวิชาการชาวอียิปต์ได้นำศาสนาคริสต์ไปเผยแพร่ยังอักซุม ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียง ในช่วงเวลานี้ อักซุมเข้าควบคุมจักรวรรดิมีฐานอยู่ที่เมโร ประชาชนของอักซุมได้สร้างแผ่นศิลาจารึกหินสูง (เป็นอนุสารีย์) เพื่อเป็นเครื่องหมายสุสานของกษัตริย์ที่สวรรคต

Spread of religions
From the 8th century, trade, conquests, and colonialism spread religions such as Islam in Africa. In North Africa, Islam completely replaced traditional religions, which often included the worship of ancestors.


การเผยแพร่ศาสนา
            นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 การค้าขาย การพิชิต และลัทธิล่าอาณานิคมได้เผยแพร่ศาสนา เช่น ศาสนาอิสลาในแอฟริกา ในแอฟริกาเหนือ ศาสนาอิสลามเข้ามาแทนที่ศาสนาเก่าแก่โดยปกติก็คือการบูชานับถือบรรพบุรุษอย่างสมบูรณ์แบบ







Ancestor worship
In many parts of Africa, communities had sacred shrines where they placed offerings for the spirits of their dead ancestors. Today, during certain annual festivals, members of the community wear special masks, sing, dance, and tell stories in honor of their ancestors.








การบูชานับถือบรรพบุรุษ
            ในหลาย ๆ ส่วนของทวีปแอฟริกา ชุมชนจะมีวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สำหรับถวายเครื่องเซ่นไว้ให้กับดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ปัจจุบัน ในช่วงระหว่างเทศกาลประจำปีบางเวลา สมาชิกของชุมชนจะสวมหน้ากากพิเศษมาร้องรำทำเพลง เต้นรำและเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อถวายเกียรติยศให้กับบรรพบุรุษของตนเอง

 
ประวัติศาสตร์แอฟริกา
Festival mask/หน้ากากเทศกาล
 
ประวัติศาสตร์แอฟริกา
Ait Benhaddou, Morocco 
เอท เบนฮัดโด โมร็อกโก




Islam
By c.800, Middle Eastern Arabs had taken Islam to North Africa. From the 11th century, trade helped spread Islam across the Sahara into West Africa and up the River Nile into Sudan.




อิสลาม
            ประมาณศตวรรษที่ 800 ชาติอาหรับในตะวันออกกลางได้นำศาสนาอิสลามไปยังแอฟริกาเหนือ นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 การค้าขายได้ช่วยเผยแพร่ศาสนาอิสลาข้ามทะเลทรายสะฮาราไปยังแอฟริกาตะวันตกและขึ้นไปตามแม่น้ำไนล์ไปยังประเทศซูดาน
Slave trade
By the 1470s, the Portuguese were trading copper, brass, gold, and slaves with Benin in West Africa. In the 1480s, the Portuguese arrived in the islands of Principe and Sao Tome in the Gulf of Guinea, just off the west African coast. They established sugar plantations, and forced African captives (mainly kidnapped in Senegal and Gambia) to work as slaves on the plantations. This was the beginning of European domination in Africa.

การค้าขายทาส
            ประมาณทศวรรษที่ 1470 ชาวโปรตุเกสกำลังค้าขายทองแดง ทองเหลือง ทองคำ และทาสกับประเทศเบนิน ในแอฟริกาตะวันตก ในทศวรรษที่ 1480 ชาวโปรตุเกสได้เดินทางมาถึงหมู่เกาะปรินซีปีและเซาตูเมในอ่าวกินี ใกล้ชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก พวกเขาสร้างสวนน้ำตาลและบังคับชาวแอฟริกันเชลย (ส่วนใหญ่ถูกลักพาตัวไปไว้ในเซเนกัลและแกมเบีย) เพื่อทำงานเป็นทาสในพื้นที่เพาะปลูก นี่คือจุดเริ่มต้นของยุโรปเข้าครอบงำแอฟริกา


 
ประวัติศาสตร์แอฟริกา
Plaque showing Portuguese soldier, 1500s
แผ่นโลหะมีภาพทหารโปรตุเกส, ศตวรรษที่ 1500